วาทะปัญญาจากนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ
วาทะปัญญาจากนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ
0 Vote
89 View
วาทะปัญญาจากนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ
นำมาจากวาทศาสตร์แห่งนะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ ของท่านอิมามอะลี (อ.) การเรียนรู้ 1. หนังสือทั้งหลาย คือ สวนของผู้รู้ 2. บุคคลใดที่เรียนรู้ย่อมย่อมตาสว่าง 3. บุคคลที่ตาสว่างย่อมเข้าใจ บุคคลที่เข้าใจย่อมมีความรู้ 4. ผู้คงแก่เรียนย่อมมีชีวิตอยู่ แม้ภายหลังการตายของเขา คนโง่ย่อมตายแม้ขณะยังมีชีวิตอยู่ 5. นักปราชญ์ย่อมรู้จักคนโง่ เพราะแต่ก่อนนี้ ตัวเขาเองเคยโง่มาก่อน แต่คนโง่ย่อมไม่รู้จัก 6. ปราชญ์ เพราะเขาไม่เคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน 7. ผู้ใดก็ตามที่ในจิตใจของเขา ครุ่นคิดพิจารณาแต่ความคิดที่ดีย่อมเรียนรู้ที่จะจำแนกแยกแยะจุดต่าง ๆของความผิดพลาด 8. ผู้รู้ที่แท้จริงนั้นคือ บุคคลผู้ซึ่งเข้าใจว่า สิ่งที่เขารู้นั้นแท้จริงแล้วมีเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาไม่รู้ การพิจารณาตรึกตรอง 1. บุคคลผู้ครุ่นคิดพิจารณาถึงความโปรดปรานทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้านั้น ย่อมสำเร็จ 2. การครุ่นคิดพิจารณาของมนุษย์ เป็นกระจกส่องให้ตัวเขาได้เห็นการกระทำที่ดีและชั่วของเขาเอง 3. ผู้ใดก็ตามที่มีพลังแห่งความตรึกตรอง ย่อมดึงบทเรียนได้จากทุก ๆสิ่ง 4. เรื่องต่าง ๆ ที่มืดมัว จะกลับกลายเป็นความกระจ่างชัดในความเพียรครุ่นคิดพิจารณา 5. การกระทำในสิ่งที่ได้ไตร่ตรองพิจารณาแล้วเท่านั้น ย่อมทำให้กิจการงานทั้งหลายของท่านดำเนินไปได้ด้วยดี 6. คิดใคร่ครวญก่อนที่ท่านจะลงมือกระทำ (การโจมตี) 7. คิดใคร่ครวญก่อนที่ท่านจะพูด แล้วท่านจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้เช่นกัน การศึกษา 1. แท้จริงแล้ว ท่านมีความจำเป็นในการศึกษาที่ดี มากเสียยิ่งกว่าชัยชนะที่นำมาซึ่งเงินและทองคำ 2. การศึกษาที่ดีปกปิดแหล่งกำเนิดอันต่ำต้อย 3. ผู้ได้รับการศึกษาย่อมมองเห็นด้วยกับจิตใจและวิญญาณ คนโง่เขลานั้นมองเห็นก็แต่เพียงกับดวงตาทั้งสองของเขาเท่านั้น 4. จงฟัง แล้วท่านจะสอนตัวท่านเอง นิ่งสงบเงียบ แล้วท่านจะไม่เสี่ยงเลย 5. อุทิศชีวิตแก่ศาสนา โดยปราศจากการถูกสั่งสอนอบรม ก็เหมือนกันกับลาสีข้าวซึ่งเดินวนเวียนไปรอบ ๆ โดยไม่อาจออกไปจากที่นั้นได้ 6. ผู้ที่ไม่รู้จักเรียนรู้อะไรเลย ย่อมไม่เคยถูกสอนสั่ง 7. ผู้ใดก็ตามที่ไม่อดทนต่อความยากลำบาก ในการถูกสั่งสอนอบรมจะอยู่อย่างนั้นตลอดไปในความต่ำต้อยแห่งอวิชชา 8. ครูและนักเรียนมีส่วนร่วมเท่า ๆ กันในรางวันของพระผู้เป็นเจ้า 9. การสอนที่ดีที่สุดคือ การสอนซึ่งแก้ไขตัวท่านให้ถูกต้อง 10. การสอนที่มิได้แก้ไขตัวท่านให้ถูกต้องย่อมอยู่ในแนวทางที่ผิดพลาด 11. บุคคลผู้มีความสามารถน้อยที่สุดก็คือ บุคคลผู้ซึ่งสำแดงตัวเขาเองให้ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขตัวเองให้ถูกต้องได้ 12. ทำตัวท่านเองให้เป็นผู้รับใช้ผู้รู้คนใดก็ได้ ที่ท่านพานพบ 13.บุคคลย่อมเรียนรู้โดยการถามปัญหาต่าง ๆ ความรู้ 1. ภาชนะทุกใบถ้าเทสิ่งของลงไปมันจะเต็ม ยกเว้นขุมคลังแห่งความรู้ยิ่งเติมยิ่งโต 2. ไม่มีขุมคลังใดเหมือนอย่างความรู้ 3. อาณาจักรแห่งความรู้ไม่มีขอบเขต 4. หัวหน้าของสติปัญญาอันเป็นพรสวรรค์ คือความรู้ 5. ความรู้นำไปสู่ปัญญา ด้วยเหตุนี้ผู้ได้รับการศึกษาจึงเป็นคนฉลาด 6. ความมั่งมี ลดน้อยถอยลงโดยการจับจ่ายใช้สอย ในขณะที่ความรู้ถูกทำให้เพิ่มพูนขึ้นโดยการเผยแพร่ 7. สิ่งที่หายากคุณค่าของมันย่อมเพิ่มมากขึ้น ยกเว้นความรู้ยิ่งกระจัดกระจายออกไปมากเท่าใด มันก็ยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น 8. ที่สุดของทั้งสองสิ่งนี้ ซึ่งไม่อาจจะบรรลุถึงได้ คือความรู้และความเข้าใจ 9. ด้วยความรู้ทำให้ท่านปลอดภัย ด้วยความโง่ทำให้ท่านขาดทุน 10. สัจธรรมคือวิถีทางที่วิบากที่สุด และความรู้คือ มัคคุเทศก์ที่ดีที่สุด 11. ความรู้คือคลังสมบัติที่กว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งมันไม่เคยถูกใช้ให้หมดสิ้นไปได้ สติปัญญาคือ เสื้อคลุมตัวใหญ่ซึ่งไม่มีวันเก่า 12. เสื้อคลุมแห่งความรู้ จะทำให้ท่านเป็นอมตะและดูไม่แก่ 13. จงแสวงหาให้ได้มาซึ่งความรู้ มันเป็นอาภรณ์ประดับตัวท่านหากท่านเป็นร่ำรวย และมันจะชุบเลี้ยงท่านหากท่านยากจน 14. บุคคลที่ปลอดภัยที่สุดในความรู้ของเขาคือ ผู้ซึ่งที่ความเชื่อมั่นทังหลายของเขา ไม่ถูกทำให้อ่อนแอลงโดยความสงสัย 15. ความรู้ที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือ สิ่งที่ผู้หนึ่งนำมันไปสู่การปฏิบัติ 16. จงเลือกส่วนที่ดีที่สุดของวิทยาการแต่ละสาขา ให้เหมือนอย่างผึ้งที่ดูดส่วนที่ละเอียดอ่อนที่สุดของดอกไม้นั้น 17. จงติดตามแสวงหาความรู้ ซึ่งท่านอาจจะควรค่าแก่ตำแหน่งที่มีเกียรติอันน่าเคารพยกย่อง 18. จงค้นหาความรู้ จงทำให้ตัวท่านเองเป็นที่รู้จักโดยผ่านทางความรู้นั้น จงปฏิบัติมันแล้ว ท่านจะกลายเป็นผู้รู้เช่นกัน 19. ประสบการณ์ คือความรู้ที่ได้รับมา 20. ผู้ขาดประสบการณ์ ย่อมถูกหลอกบ่อย ๆ 21. กษัตริย์ได้รับความเคารพนับถือเพราะอำนาจของพระองค์ นักปราชญ์ได้รับความเคารพนับถือเพราะสิ่งที่เขารู้ ผู้ทำความดี ได้รับความเคารพนับถือก็เพราะการทำความดีต่าง ๆ ของเขา และหัวหน้าเผ่าชนได้รับความเคารพนับถือก็เพราะอายุของเขา 22. จะรู้จักคนอื่นได้อย่างไร ถ้าหากบุคคลนั้นยังไม่รู้จักตนเอง 23. จงอย่าเกลียดในสิ่งที่ท่านไม่รู้ เพราะความรู้อันเป็นส่วนที่ใหญ่กว่านั้นประกอบด้วยสิ่งที่ท่านไม่รู้ 24. ถ้าท่านปิดบังซ่อนเร้นในสิ่งที่ท่านรู้ ท่านจะถูกทึกทักเอาว่าท่านไม่รู้อะไรเลย 25. บุคคลควรไต่ถามถึงเรื่องที่ตนไม่รู้ไม่ควรอายที่จะกล่าวว่า "ฉันไม่รู้" 26. มนุษย์มักเป็นปฏิปักษ์กับสิ่งที่เขาไม่รู้ 27. ภัยร้ายของความรู้คือ การไม่ปฏิบัติตามความรู้นั้น ภัยรายของแรงงานคือ การทำงานแต่ไม่สุจริตใจ 28. การขว้างวิทยาการทิ้งไปนั้น ก็เสมือนกับการทุบทำลายไม้ที่ต่อเรือลำหนึ่งออกเป็นชิ้น ๆ ซึ่งบรรดาผู้สร้างเรือลำนั้นพร้อมด้วยผู้เดินทางทั้งหมดที่โดยสารไปกับมันนั้นต้องจมลงจนหมดสิ้น 29. ความรู้เช่นนั้นถือว่าผิวเผินมาก ซึ่งหลงเหลืออยู่เฉพาะบนปลายลิ้นของท่านเท่านั้น คุณธรรม 30. ภายในและคุณค่าของความรู้นั้น คือสิ่งที่ท่านยึดถือปฏิบัติไปตามนั้น 31. ความรู้คือมรดกที่ล้ำค่าที่สุด ปัญญา 1. ความฉลาดต้องการวันละชั่วโมงทุก ๆ วันเพื่อจัดการสำรวจตรวจสอบมโนธรรมของเขาเอง และวางมาตรการสิ่งที่เขาได้รับหรือสูญเสียไป 2. จิตใจเป็นแหล่งของสติปัญญา ด้วยการโสดสดับในฐานที่เป็นช่องทางของมัน 3. ปรัชญาเป็นพฤกษาที่เจริญเติบโตในใจ และดอกผลของมันผ่านออกมาทางถ้อยคำ 4. ความศรัทธาและปัญญา เป็นพี่น้องฝาแฝด พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงรับสิ่งหนึ่งโดยปราศจากอีกสิ่งหนึ่ง 5. โดยปัญญา ที่ทำให้บุคคลบรรลุถึงยอดแห่งกิจการงานทั้งหลาย 6. พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงประทานสิ่งใดให้แก่บรรดาผู้ถูกบังเกิดของพระองค์ที่วางสูงกว่าเหตุผล แท้จริง คนผู้เห็นไปก่อนล่วงหน้าจะไม่ถูกกับดักของเล่ห์กล คนฉลาดก็ไม่ถูกหลอกด้วยความโลภ 7. ไว้เนื้อเชื่อใจแก่บุคคลใด ก่อนที่จะรู้จักเขาดี ถือว่าขาดสติปัญญา 8. ความหลงใหลในโลกีวิสัยเกิดขึ้นน้อยในขณะที่ปัญญาเพิ่มมากขึ้น 9. คนฉลาดพึ่งพาแรงงานของเขาเอง ส่วนคนโง่ไว้วางใจในความคิดเพ้อฝันต่าง ๆ 10. ปราชญ์แสวงหาความสมบูรณ์ คนโง่แสวงหาทรัพย์ 11. สมมติฐานของคนฉลาด ย่อมใกล้เคียงความถูกต้องมากกว่าความรู้ของคนโง่ 12. มันเป็นส่วนของคนฉลาดที่จะต้องเชื่อฟังผู้มีตำแหน่งเหนือเขา ให้ความเคารพแก่ผู้ที่มีความเท่าเทียมกันกับเขา และให้ความยุติธรรมแก่ผู้ที่ด้อยกว่าเขา 13. ความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ความมั่งคั่งแห่งสติปัญญา และการวินิจฉัยที่ยุติธรรม ความยากจนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ความยากจนของคนโง่เขลาและอวิชชา ส่วนความไม่น่าคบที่สุดนั้นคือ ความไร้สาระ หยิ่งยโส คดโกงและยกย่องตนเอง ความสูงส่งที่สุดของความดีมีศีลธรรมก็คือความประพฤติอันสุภาพอ่อนโยน และในความดีงามแห่งวัฒนธรรม 14. คนฉลาดคิดก่อนแล้วพูด ส่วนคนโง่พูดก่อนแล้วค่อยคิด 15. ผู้มีสติปัญญาคือ บุคคลผู้ซึ่งรู้ว่าจะอยู่อย่างไรในวันนี้ที่จะมีความสุขมากกว่าเมื่อวันวาน 16. เกี่ยวกับคุณสมบัติที่ดีของมนุษย์ สองประการที่มีชื่อเสียงคือ สติปัญญาและถ้อยคำ โดยประการแรกนั้นเขาทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และในประการที่สอง เขาทำให้บุคคลอื่นได้รับประโยชน์ 17. สติปัญญาเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติ และเพิ่มพูนขึ้นด้วยการสอนและประสบการณ์ 18. ไม่มีใครเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองสติปัญญา จะเคยถูกลดลงมาสู่ความยากจน 19. เขาเป็นผู้มีเกียรติ ผู้ซึ่งใช้สติปัญญาเป็นประจำ 20. คนฉลาดคือผู้ที่วางทุกสิ่งไว้ในที่ของมัน 21. หัวอกของผู้มีสติปัญญาคือคลังแห่งความเร้นลับ