โอวาทแห่งการดำเนินชีวิต

โววาทแห่งการดำเนินชีวิต

มิตรภาพ 1. เพื่อนที่แท้จริง เป็นวิญญาณเดียวกันที่อยู่ในเรือนร่างต่างกัน 2. สิ่งใหม่ที่สุดมักดีที่สุด แต่เพื่อนที่ดีที่สุด คือเพื่อนที่เก่าแก่ที่สุด 3. มิตรภาพย่อมได้มาด้วยความสัมพันธ์ 4. มิตรภาพคือ ความเป็นพี่น้องที่ใกล้ชิดที่สุด 5. ความสุภาพอ่อนโยน ก่อให้เกิดมิตรภาพ 6. มีความมั่นใจในพวกเขาทั้งหลาย แล้วท่านจะมีความสุขในมิตรภาพของพวกเขา 7. ใช้ชีวิตของท่านเองอย่างอิสระกับเพื่อนฝูงของท่าน แต่อย่าไปละทิ้งเขา เพราะท่านหวังจะอยู่อย่างสงบตามลำพังตนเอง 8. ผู้ใดก็ตามที่ละทิ้งเพื่อนเพราะความผิดเพียงเล็กน้อย ก็จะเสี่ยงที่จะอยู่อย่างปราศจากเพื่อน 9. อย่าลืมที่จะให้เกียรติในสิทธิต่าง ๆ ของเพื่อนของท่านบนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนที่สนิทชิดชอบ เพราะถ้าเขาหยุดเป็นของของท่าน ท่านก็จะเหยียบย่ำในสิทธิต่าง ๆ ของเขาทันที 10. คนแปลกหน้า คือคนที่ไม่เคยมีเพื่อน 11. ไม่ต้องแสวงหาที่จะมีเพื่อนมากเกินไป เพราะการทอดทิ้งเพื่อนคนนี้หรือคนนั้น ย่อมจะสร้างศัตรูให้แก่เขา เพื่อนฝูงก็เหมือนไฟ ถ้ามากเกินไปก็เผาไหม้ ฉะนั้น เพียงน้อยคนย่อมเป็นคุณประโยชน์ 12. จงอย่าเลือกเอาศัตรูของท่านมาเป็นเพื่อนของท่าน 13. จงอย่าเป็นเพื่อนคนโง่ เขาจะทำให้ท่านเดือดร้อน ถึงแม้สิ่งที่เขากระทำนั้นดูว่าจะเป็นประโยชน์ก็ตาม 14. มิตรที่ชั่วที่สุดก็คือ ผู้ที่ยกยอปอปั้นท่านและแต่งแต้มสีสันความชั่วของท่านให้เป็นสิ่งที่ดีงาม ถ้าหากมิตรผู้หนึ่งที่จริงใจแต่ภายหลังพบว่าเขาเป็นผู้ทรยศคดโกงก็ย่อมเป็นความง่ายดายที่จะตัดสัมพันธ์กับเขา 15. มีมิตรที่จริงแท้ตั้งจำนวนเท่าใดแล้วที่ทำให้ผู้หนึ่งต้องปวดร้าวโดยมิได้ตั้งใจ 16. บุคคลผู้นั้นย่อมมิใช่เพื่อนของท่าน ถ้าหากท่านยังต้องการคนกลางมาทำการไกล่เกลี่ย ระหว่างเขากับท่าน 17. ถึงแม้ท่านจะมอบโลกทั้งใบ มันก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะเอาชนะในมิตรภาพของผู้กลับกลอกให้กับท่านได้ 18. ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ผู้หนึ่งย่อมสามารถบอกได้ว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู 19. เพื่อนที่เวลาที่สุดก็คือ ผู้ที่ไปมาหาสู่กับท่านยามรุ่งเรือง และละทิ้งท่านในยามตกอับ 20. ถ้าหากเพื่อนคนหนึ่งอิจฉาท่าน ดังนั้นเขาก็มิใช่เพื่อนที่แท้จริง 21. ผู้หนึ่งยังมิอาจพิจารณาให้เป็นเพื่อนได้จนกว่าจะได้ทำการทดสอบเขาด้วยกันสามโอกาสนั้นคือ ในยามจำเป็นเมื่อยู่ลับหลังท่าน และเมื่อภายหลังจากที่ท่านตายแล้ว 22. บรรดาผู้ที่มองหาท่านในยามรุ่งเรืองย่อมละทิ้งท่านในยามขัดสน 23. พี่น้องของท่านก็คือ ผู้ที่เขาช่วยเหลือท่านเมื่อท่านตกอยู่ในความลำบาก 24. มันมีบ่อยครั้งสักขนาดไหน ที่คนรักและชอบพอกันคู่หนึ่งถ้าหากเขาจะแยกทางกันก็ยังจะดีเสียกว่า  ศัตรู 1. ศัตรูเพียงคนเดียวก็ถือได้ว่ามากพอแล้ว 2. อย่าไปชิงชังศัตรูถึงแม้เขาจะเป็นผู้อ่อนแอก็ตาม 3. บุคคลผู้ที่ไม่อาจสามารถแยกแยะความดีออกจากความชั่วได้ ก็คือศัตรูคนหนึ่งนั่นเอง 4. จงอย่าให้ถูกหลอกด้วยกับอาชีพอันสุจริตของศัตรูคนใด เพราะศัตรูทุกคนนั้นเปรียบประดุจดังน้ำที่เมื่อมันถูกสาดเข้าไปที่กองเพลิงมันก็จะทำให้เพลิงมอดลง 5. ศัตรูผู้ซึ่งได้แสดงออกถึงความเกลียดชังของเขาอย่างเปิดเผย ย่อมเป็นศัตรูที่ไม่มีความสำคัญอันใด 6. การไว้ชีวิตแก่ศัตรูทำให้อำนาจขจรขจาย 7. ถ้าหากได้มีการปรองดองกันในระหว่างศัตรูของท่านและกับตัวของท่านเอง และท่านได้ให้คำสัตย์สาบานในกิจการของท่านกับมันแล้ว ก็จงให้เกียรติกับพันธะสัญญาของท่าน จงเชื่อฟังถึงแม้กับความชั่วของคุณธรรมของท่าน 8. ผู้ใดก็ตามที่ละทิ้งฝ่ายของเขาไปก็เท่ากับเป็นการช่วยศัตรูของเขา  ความบาดหมาง 1. ความบาดหมาง เป็นน้ำพุแห่งความเศร้าหมองอันเหลือคณา 2. การทุ่มเถียงกัน เป็นน้ำพุแห่งความพินาศ 3. กิจกรรที่มีระเบียบที่ดีที่สุด ย่อมถูกทำให้เสียหายไร้ระเบียบ เนื่องจากความเห็นไม่ลงรอยกัน ทรราช 1. ผู้ปกครองที่กดขี่ คือความหายนะของประเทศทั้งหลาย 2. อันตรายทั้งหลายติดตามทุกขณะในยามตื่นของผู้ปกครองที่กดขี่ 3. ผู้ใดก็ตามที่ขึ้นขี่ความเป็นทรราช จะได้เห็นการคุมบังเหียนของเขาต้องคะมำลง 4. บรรดารัฐมนตรีที่ชั่วร้าย ย่อมเป็นผู้ช่วยเหลือของผู้ปกครองที่กดขี่และเป็นพี่น้องของบรรดาผู้กระทำชั่ว 5. ผู้ใดเริ่มการปกครองที่กดขี่ จะเสียใจในไม่ช้า การกดขี่ 1. สามกลุ่มของมนุษย์ที่ถูกตัดขาดจากพรแห่งความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้านั่นคือ บรรดาผู้กดขี่ กลุ่มบุคคลผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการกดขี่ กลุ่มบุคคลผู้อดทนต่อการกดขี่ 2. บุคคลสามารถจะนอนหลับได้ หลังจากการตายของบุตรของตนแต่นอนไม่หลับภายใต้การกดขี่ 3. รูปแบบที่ดีที่สุดของความยุติธรรมคือ การช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ถูกกดขี่ทั้งหลาย 4. กษัตริย์ที่ดีที่สุดคือ ผู้ซึ่งขจัดการกดขี่และก่อให้เกิดความเป็นธรรมกลับคืนมาอีกครั้ง 5. สัตว์ป่าเถื่อนที่ฉีกเนื้อเถือหนังออกเป็นชิ้น ๆ และสวาปาม ย่อมเป็นที่พึงพอใจแก่ผู้ปกครองนครที่ชอบความรุนแรงและกดขี่ข่มเหงรังแก 6. ผู้ปกครองที่ทำการกดขี่ผู้อยู่ใต้การปกครองทั้งหลายของเขา ย่อมจะมีชีวิตอยู่ได้เห็นประชาชนเหล่านั้นปรารถนาที่จะเห็นเขาตาย 7. ชั่วโมงแห่งการแก้แค้นของผู้ถูกกดขี่นั้น น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าชั่วโมงของการกดขี่ของเผด็จการเสียอีก 8. จงหลีกเลี่ยงผู้กดขี่ ด้วยการขอความคุ้มครองจากพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งไม่มีใครปกป้องท่านได้นอกจากพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น 9. จงหลีกเลี่ยงการกดขี่ เพราะไม่มีผู้ปกครองที่กดขี่คนใดเลยจะได้สูดกลิ่นไอสวรรค์ 10. เมื่อท่านพบผู้ที่ถูกกดขี่ ก็จงช่วยเขาต่อต้านผู้กดขี่ 11. ผู้ใดก็ตามที่สงสารตัวเอง ก็จงอย่ากดขี่คนอื่น 12. เขากดขี่ความชอบธรรม ผู้ซึ่งช่วยเหลือสนับสนุนความอยุติธรรม 13. ผู้ใดก็ตามที่กดขี่ เขาจะถูกกดขี่ 14. การกดขี่และเผด็จการทรราช เป็นสหายที่เลวร้ายสำหรับโลกหน้า 15. บุคคลที่เข้าถึงอำนาจมักละเมิด 16. เสบียงที่เลวที่สุดในวันฟื้นคืนชีพ คือ การกดขี่ปวงบ่าว 17. ผู้ละเมิดและผู้อธรรมเป็นผู้พ่ายแพ้  ความยุติธรรม 1. ความยุติธรรมย่อมทำให้มิตรภาพเพิ่มพูน 2. ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้รัฐทั้งหลายเข้มแข็งได้ เท่ากับความยุติธรรม 3. ความยุติธรรมเป็นหลักการแกนนำสำคัญของประชาชน 4. กระทำการอย่างยุติธรรม แล้วอำนาจของท่านจะอยู่ตลอดไป 5. การบริจาคทานของอำนาจคือ ความยุติธรรม 6. การบริจาคทานของพระราชาคือ การให้ความยุติธรรมแก่ผู้ถูกกดขี่ 7. ไม่มีผู้ปกครองที่ยุติธรรมคนใด ที่ต้องการความช่วยเหลือจากหมู่สหายของเขา 8. ความหายนะของประเทศชาติคือ ผู้รู้ที่หลงใหลในโลกีย์และทรราชผู้กดขี่นั้นเป็นพิษภัยของความ